เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๓ ต.ค. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว! ตั้งใจฟังธรรม หยุด ๓ วัน เขาไปเที่ยวตากอากาศกัน ทางโลกเขาไปเที่ยวไปตากอากาศ แต่คนที่มีหัวใจเป็นธรรม เขาแสวงหาของเขา ถ้าเขาแสวงหาของเขา เขาแสวงหาสิ่งใด ถ้ารู้จักแสวงหา วันนี้วันปิยมหาราช วันนี้วันสำคัญ ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว ถ้า ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว ถ้ามันเป็นอดีตไปแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนปัจจุบันๆ ไปคิดถึงเรื่องอดีตทำไม

ถ้าไม่คิดถึงเรื่องอดีต คนไม่รู้จักรากเหง้าไง คำว่า “รากเหง้า” นะ ถ้าไม่ได้ปกป้องรักษาชาติไว้ ถ้าไม่ปกป้องรักษาชาติไว้ ดูชาติที่เขาเป็นอาณานิคม อาณานิคมเวลาเขาไม่ได้ปกป้องรักษาชาติไว้ ต้องเสียภาษีเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ของตนเองนะ เสียภาษีค่าอยู่อาศัย เสียภาษีทุกๆ อย่าง เป็นเจ้าของบ้าน แต่ต้องเสียเงินเพื่ออยู่ในบ้านของตนเอง เวลาถ้าตกเป็นขี้ข้าเขา นี่ไง ความสำคัญๆ ความสำคัญอยู่ตรงนี้ไง ความสำคัญที่ท่านปกป้องรักษาชาติเอาไว้ไง ถ้ารักษาชาติเอาไว้ เห็นถึงบุญคุณของท่านไหม ถ้าเห็นถึงบุญคุณของท่านนะ รักษาชาติไว้

เรามีรากเหง้าของวัฒนธรรม ถ้ารากเหง้าของวัฒนธรรม พูดถึงวัฒนธรรมๆ

“หลวงพ่อมาจากไหน”

เกิดที่นี่ เกิดที่นี่แหละ แต่พ่อแม่อพยพมา เราอพยพมา คนจีนเขาได้อพยพมา เขาได้มาพึ่งพาอาศัย เขารู้จักบุญรู้จักคุณ เขารู้จักบุญรู้จักคุณ เราเกิดที่นี่ เราเป็นคนในสัญชาตินี้ เรามีรากเหง้าของเรา เราไม่รู้จักบุญคุณของคนเลยหรือ ถ้าเรารู้จักบุญคุณของคน เราจะมีสามัญสำนึก เราจะเป็นมนุษย์ขึ้นมา เป็นผู้มีศักยภาพ เป็นผู้ที่มีศีลมีธรรมในหัวใจ ถ้าคนไม่รู้จักบุญรู้จักคุณของคน ไม่รู้จักกตัญญูกตเวที ไม่รู้จักพ่อแม่ได้อย่างไร

เวลาพ่อแม่ของเรา พระอรหันต์ของลูก พระอรหันต์ของลูก เขาให้ชีวิตนี้มา ชีวิตที่นั่งอยู่นี่ พ่อแม่ให้มาทั้งนั้นแหละ แล้วพ่อแม่ตั้งท้องมา อาบเหงื่อต่างน้ำเลี้ยงดูมา แล้วจะไม่มีบุญคุณได้อย่างไร ถ้าพ่อแม่ไม่มีบุญคุณ

พ่อแม่มีบุญคุณ แต่เวลาของเรา เรามาทุกข์มายาก กิเลสตัณหาความทะยานอยากมันบีบคั้นหัวใจของเรา เราก็จะเอาแต่อิสรภาพ เราจะเอาแต่ความพอใจของเรา มันอยู่ที่สายบุญสายกรรมไง

มันเป็นน้ำใจของคน ถ้าน้ำใจของคนดีๆ เขาจะซาบซึ้งบุญคุณคนนั้น เขาจะดูแลสิ่งนั้น ดูสิ เวลาคนเขามีครอบครัวขึ้นมา มีลูกคนแรกจะคิดถึงพ่อแม่ทันทีเลย แต่ถ้าคนเขาไม่มีลูกมีเต้า เขายังคิดเรื่องพื้นๆ แต่ถ้าเขามีลูกมีเต้าขึ้นมา ด้วยความสัมพันธ์ ด้วยความผูกพันอันนั้นจะระลึกถึงพ่อแม่ทันทีเลย ดูสิ อชาตศัตรู เทวทัตไปยุไปแหย่ให้มาฆ่าพ่อ ฆ่าพ่อเพื่อจะเอาสมบัติ เวลาลูกเกิดขึ้นมา “ให้ปล่อยพ่อๆ” ปล่อยก็สายไปแล้ว พ่อตายแล้ว พ่อตายเพราะอะไร ตายเพราะคนยุแหย่ ตายเพราะคนอยากได้อำนาจบาตรใหญ่

เวลาลูกเกิด เขามาแจ้งนะ เวลาอชาตศัตรู พอมาแจ้งพร้อมกัน เพราะเอาพ่อไปขังไว้ แล้วภรรยาก็กำลังจะคลอด เวลามา มาพร้อมกันเลย ตกลงว่าใครจะเข้าก่อน ตกลงว่าบอกว่าลูกเกิดก่อน พอรู้ว่าลูกเกิด ด้วยความผูกพัน คิดถึงพ่อทันทีเลย สั่งปล่อย แต่สั่งปล่อย ปล่อยที่ไหนล่ะ ตายไปแล้ว

นี่เวลาคนมันยุมันแหย่ ดูสิ เวลาจิตใจไม่มีหลักมีเกณฑ์ ถ้าเรามีหลักมีเกณฑ์ เราคิดถึง กตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดีนะ คนดีเขามีกตัญญูกตเวที คนที่มีกตัญญู น้ำขันหนึ่ง ข้าวคำหนึ่งเขายังรู้จักบุญคุณของคน คนที่เขาให้อาหาร ให้ต่างๆ แล้วให้โอกาส ให้น้ำใจ ให้ต่างๆ มาทั้งนั้นน่ะ รักษาไว้ๆ นี่ไง มันถึงเป็นวันสำคัญไง ถ้าวันสำคัญ

เวลาสำคัญ ดูสิ เวลาพูดถึงศีลธรรมวัฒนธรรม เวลาหลวงตาท่านเทศน์แกงหม้อใหญ่ ท่านก็พูดถึงความเป็นอยู่ของสังคม แกงหม้อเล็ก แกงหม้อเล็กก็พูดถึงพระนักปฏิบัติ แกงหม้อจิ๋ว เวลาพูดกัน

มืดกับสว่าง มืด สว่าง มันมีกลางคืนและมีกลางวัน มันมีอะไรน่าตื่นเต้น มันไม่มีสิ่งใดเลยนะ ถ้าพูดถึงเข้าไปอย่างนั้น แต่คนที่เข้าไปถึงตรงนั้นได้มันมีมากมีน้อยแค่ไหนล่ะ ถ้ามันมีมากมีน้อยแค่ไหน ถ้าคนยิ่งเข้าไปถึงตรงนั้นได้ พระอรหันต์ เวลาสิ้นกิเลสแล้วเป็นพระอรหันต์ ดูสิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ เวลาเป็นพระอรหันต์จะรื้อสัตว์ขนสัตว์มันมีความเมตตา

เวลาเรากราบนะ เรากราบสัญลักษณ์ กราบตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบพระพุทธรูป เรากราบถึงไหม หลวงตาท่านถามว่าเรากราบพระถึงพระไหม ถ้ากราบพระถึงพระ กราบถึงปัญญาคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมตตาคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากราบถึงอันนั้นต่างหากล่ะ ๒,๐๐๐ กว่าปี ๒,๐๐๐ กว่าปี เรายังเคารพ เรายังกราบไหว้บูชาของเรากันอยู่ ถ้าเรากราบไหว้บูชาของเราอยู่ เรากราบไหว้สิ่งใด เรากราบไหว้สิ่งใด กราบไหว้เพราะปัญญาของท่าน ความเมตตาของท่าน ทำให้สังคมของชาวพุทธเรามีศีลธรรมมีจริยธรรม

ชาวพุทธเราเวลาฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย สยามเมืองยิ้มๆ ธรรมะมันเข้าถึงหัวใจ ธรรมะมันเข้าถึงหัวใจ มันแสดงออกมาจากน้ำใสใจจริงไง มันไม่ใช่ปั้นแต่งออกมาไง ถ้ามันแสดงออกมาจากน้ำใสใจจริงของมัน มันจริงใจ ความจริงใจมันมาจากไหนล่ะ? มาจากการขัดเกลาของศาสนาไง เวลาศาสนามันขัดเกลา มันดูแลเรามา ดูแลหัวใจ ประเพณีวัฒนธรรมมันขัดเกลาๆ มาตลอด ถ้าขัดเกลามาตลอด มันเป็นประโยชน์กับเรา ถ้าเป็นประโยชน์กับเรา ศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี ใช่ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี แต่ดีแค่ไหนล่ะ ดีแค่ไหน

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิญาณตนว่าเป็นพระอรหันต์ ไม่มีศาสดาองค์ใดปฏิญาณตนว่าเป็นพระอรหันต์ทั้งนั้นแหละ พยายามแต่จะสร้างอำนาจ จะสร้างความครอบครอง แต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เราเป็นพระอรหันต์ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ขอจงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

เวลาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒,๐๐๐ กว่าปีนะ ถ้าพูดถึงถ้าแกงหม้อจิ๋วๆ วันคืนล่วงไปๆ วันคืนมันเป็นปัจจุบัน แต่ถ้าต้นไม้มันมีแก่น มันมีเปลือก มันมีกระพี้ ถ้ามันมีแก่น มีเปลือก มีกระพี้ ถ้าคนยังเข้าไม่ถึงแก่นอันนั้น ถ้าเข้าถึงแก่นอันนั้นได้มันจบนะ ถ้าเข้าถึงแก่นอันนั้นไม่ได้ ถ้าเข้าถึงแก่นอันนั้นไม่ได้ เวลาเข้าไปเป็นการไปพลิกแพลง ว่าตัวเองมีแก่นอันนั้น แล้วชักนำให้คนประพฤติปฏิบัติเสียหายไปหมด

ถ้ามันเป็นความจริงๆ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาพูดถึงเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ผู้นั้นจะสิ้นกิเลสไป ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

คำว่า “สมควรแก่ธรรม” สมควรแก่ธรรมต้องทำสัจจะความจริงขึ้นมา ถ้าสัจจะความจริงขึ้นมา ถ้าสมควรแก่ธรรม สิ่งที่ว่าความกตัญญูกตเวที พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก ไม่ต้องสอนเลยล่ะ มันเป็นในหัวใจ ในเมื่อหัวใจมันรับรู้ น้ำใจของเขามันมาจากน้ำใสใจจริงของเขา ถ้ามันมาจากน้ำใสใจจริงของเขา ดูสิ สิ่งที่เป็นพระอรหันต์แล้วจะคิดอกุศล เป็นไปได้อย่างไร เพราะอกุศล “มารเอย เธอเกิดจากความดำริของเรา เราจะไม่ดำริถึงเจ้าอีกแล้ว เจ้าจะเกิดบนหัวใจของเราไม่ได้เลย” ถ้าเกิดไม่ได้ อกุศลมันเกิดได้อย่างไร ถ้ามันเกิดบนหัวใจดวงนั้นไม่ได้ อกุศลมันเกิดได้อย่างไร มันเกิดไม่ได้หรอก มันรู้เท่า มันปัดทิ้งหมด ถ้ามันปัดทิ้งหมด สิ่งนั้นมันน่าไว้ใจได้ นี่สิ่งที่ไว้ใจได้

พูดถึงว่า ถ้าเป็นวันสำคัญๆ วันสำคัญมันมีที่มาที่ไป คนเรามีรากเหง้า ถ้าเรามีรากเหง้านะ เราทำบุญกุศลของเรา ระลึกถึงบุญคุณของท่าน ท่านได้รักษาชาติ ทำเพื่อประโยชน์กับชาตินี้ไว้ ถ้าทำประโยชน์กับชาตินี้ไว้ เราเป็นผู้อยู่อาศัย ระลึกถึงบุญถึงคุณ ถึงจะไม่ได้เห็นตัวของท่าน แต่ท่านทำของท่านไว้ ประวัติศาสตร์ เราศึกษาของเราได้ ถ้าวันสำคัญ สำคัญ เราถึงมาทำบุญกุศลกันไง แล้วถ้าทำบุญกุศล ทำบุญกุศลเพื่อใครล่ะ เราทำบุญกุศล ใครเป็นคนได้บุญกุศลล่ะ ถ้าเราไม่ได้บุญกุศล เราจะเอาอะไรอุทิศให้ล่ะ ถ้าเราจะอุทิศให้ เราถึงมาเสียสละเพื่อเป็นบุญกุศลของเรา

ถ้าเรามีบุญกุศลแล้วเราอุทิศ อุทิศถึงบุญถึงคุณ อุทิศถึงประโยชน์อันนั้น ถ้าจะอุทิศ ใครเป็นคนได้ก่อน ถ้าเราทำ เราก็เป็นคนได้ก่อน ถ้าเราเป็นคนได้ เราขวนขวายของเรา เราพยายามของเรา ทำเพื่อประโยชน์กับหัวใจของเรา

เวลาผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าคนที่มีศีลๆ คนที่ปฏิบัติเริ่มต้น เวลามีศีลมันอึดอัดขัดข้องไปหมดนะ ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ แต่คนที่ถือศีลจนเป็นอธิศีล ถือศีลเป็นความสะดวก ทำผิดไม่ได้เลย ทำผิดปั๊บมันรู้ทันทีเลย เหมือนคนสวดมนต์ เวลาสวดมนต์ สวดมนต์ทีก็ขี้เกียจ แต่เราสวดมนต์ทุกวันๆ แล้ว ไม่สวดวันหนึ่ง เออ! วันนี้ขาดอะไรไป วันนี้ขาดอะไรไป เห็นไหม ถ้าความเคยชินทำอย่างนั้นแหละ

ถ้าถือศีลๆ เวลาเริ่มต้นใหม่ๆ ก็อึดอัดขัดข้องไปหมดแหละ ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ แต่เราถือของเรา เพราะศีล ผู้ที่มีศีลจะเข้าสังคมใด ทำสิ่งใด คนที่สะอาดบริสุทธิ์ เจอสิ่งใดก็ไม่กลัวอะไรเลย คนที่มีความผิดพลาดไป เจอเจ้าหน้าที่ก็วิ่งหนีแล้ว ถ้าเรามีศีลของเรา ศีลของเรา เรารักษาของเรา เป็นประโยชน์กับเรา ทำทุกวันๆ จนมันเคยชิน พอเคยชิน มันปฏิบัติได้ง่ายแล้ว ถ้ามีศีล พอมันปฏิบัติได้ง่าย จิตมันมีกำลังของมัน ถ้าทำสมาธิมันก็ทำได้ง่าย

เราทำสมาธิไง ทุกคนก็อยากทำสมาธิ อีลุ่ยฉุยแฉก มาถึงก็นั่งสมาธิ อะไรก็จะทำสมาธิ ใช้ปัญญา ปัญญาของใครล่ะ มันโลกียปัญญา ปัญญาของโลกทั้งนั้นนะ เรายังไม่เข้าใจไง แล้วทิฏฐิมานะด้วย บอกว่า “เราคิดแล้วมีปัญญาๆ เราก็ทำดีทุกอย่างแล้ว เรามีปัญญามากพออยู่แล้ว แล้วปัญญา”

นั่นมันเป็นโลกียปัญญา ปัญญาอย่างนั้นคือปัญญากิเลสพาใช้ แต่ถ้ามีศีลๆ ของเรา คนมีศีลมีสัตย์ คนมีศีล เวลาจิตใจของเขาซื่อสัตย์ จิตใจของเขาซื่อ จิตใจของเขามีน้ำใจของเขา มีน้ำใจของเขา เขารักษาตัวของเขา

ถ้าทำเพื่อประโยชน์กับเรา อย่าน้อยเนื้อต่ำใจ ทำดีนะ คำว่า “ความดี” ทำได้ยาก ความชั่วทำได้ง่าย น้ำไหลลงต่ำทั้งนั้นแหละ ใจมันจะไหลไปอย่างนั้น ถ้าเรารักษาของเราจนมันเป็นไปได้ พอเป็นไปได้ขึ้นมา เราทำสมาธิของเรา พอทำสมาธิของเรา เงินทองซื้อไม่ได้ ถ้าทำสมาธิของเรา ดูสิ คนเขามีเงินมีทอง เขาไปห้างสรรพสินค้า เขาต้องการวัตถุสินค้าสิ่งใด เขาซื้อได้หมดแหละ เพราะเขามีเงิน แต่เขาซื้อสมาธิไม่ได้ แล้วเราทำของเราขึ้นมา สินค้าที่มันมีเฉพาะเรา สินค้าที่มีเฉพาะเรา เราทำสมาธิของเรา สมาธิมันเกิดกับเรา ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก มันมหัศจรรย์ แล้วถ้ามีครูบาอาจารย์ของเรานะ ท่านบอกรักษาให้ดี ถ้ามีสมาธิแล้วฝึกหัดใช้ปัญญา เวลาปัญญาเกิดขึ้น ถ้าปัญญามันเกิดขึ้น เราเกิดภาวนามยปัญญา

ในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ในบรรดาสัตว์ ผู้ที่เกิดมันมีอวิชชา มีความทุกข์ ในสโมสรสันนิบาตทุกดวงใจว้าเหว่ ในสโมสรสันนิบาต ในโลกนี้ทั้งโลก ทุกดวงใจว้าเหว่ ทุกดวงใจ เป็นการยืนยันจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะหน้าชื่นขนาดไหน มีสมบัติพัสถานขนาดไหน ทุกดวงใจว้าเหว่ ทุกดวงใจ

ทีนี้พอทุกดวงใจว้าเหว่ ถ้าทำสมาธิได้ สมบัติที่ว่าเงินซื้อไม่ได้ แต่เราทำสมาธิของเราได้ มหัศจรรย์ มหัศจรรย์ที่ไหน มหัศจรรย์ เห็นไหม ของที่อยู่กับเรานะ หัวใจของเราแท้ๆ จิตนี้ ปฏิสนธิจิต เกิดในไข่ ในครรภ์ ในน้ำครำ ในโอปปาติกะ กำเนิด ๔ จิตมันทำให้เราเกิดมา แต่เราเกิดขึ้นมาแล้ว เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมามีธาตุ ๔ และขันธ์ ๕ คำว่า “ธาตุ ๔ และขันธ์ ๕” คือจริตนิสัย คือปัญญาของเรา ความรู้สึกของเรามันเป็นเปลือก พอจิตสงบเข้าไป ไปสู่ปฏิสนธิจิต ไปสู่จิตที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ พอไปเห็นเข้า อ๋อ! มันมหัศจรรย์น่ะ แล้วเงินทองซื้อไม่ได้

แต่ในปัจจุบันนี้เวลาปฏิบัติ “ว่างๆ ว่างๆ” ว่างๆ สร้างอารมณ์ อารมณ์ไม่ใช่จิต ว่างๆ ว่างๆ อารมณ์ทั้งนั้นแหละ แล้วถ้ามันเป็นอารมณ์ มันจะเป็นจิตตรงไหน มันเลยเข้าไม่ถึงไง ดูสิ เปลือก กระพี้ แก่น ถ้ามันไม่ถึงแก่น มันไม่รู้จักแก่นเป็นอย่างไรหรอก มันได้แต่ไปถึงต้นไม้ โอบเลย โอ้โฮ! แก่นต้นไม้...เปลือกทั้งนั้น

แต่ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา เราประพฤติปฏิบัติของเรา ถ้ามันได้จริง เราจะบอกว่ามันมีคุณค่าขนาดที่ว่าเงินทองเขาซื้อขายแลกเปลี่ยนทางธุรกิจของเขาได้ทั้งนั้นแหละ ทำบุญกุศลนะ ถ้าจิต เจตนาที่บริสุทธิ์เสียสละสิ่งนั้นไป แม้แต่วัตถุจะมีค่าน้อย แต่เจตนาเขามหาศาล คนที่เจตนาไม่บริสุทธิ์ แม้แต่วัตถุของเขามีค่ามาก ปฏิคาหกไง ผู้ให้ให้ด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ไง ผู้รับรับด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ บุญมันเกิดตรงนี้ไง ถ้าบุญมันเกิดตรงนี้ ถ้าประพฤติปฏิบัติเข้าสู่สมาธิขึ้นมา มันเข้าไปถึงตรงนั้น มันมีความสงบ มีความสงัด มีความระงับในหัวใจ แล้วมันเข้าไปสู่ใจของตัวเองไง นี่สมบัติแท้ๆ

เขาทำเหมืองกัน เขาต้องไปขุดหาแร่ธาตุของเขา หัวใจของเรา ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาบิณฑบาตไป พวกมิจฉาทิฏฐิเขาบอกเลย ภิกษุก็ทำนาสิ มาขออะไรเขากิน ทำนาสิ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า เราไถอยู่ทั้งวันทั้งคืนเลย สติเป็นเชือก ปัญญาเป็นผาล เราไถหัวใจของเราตลอดเลยล่ะ เราหว่านไถแปลงในใจ เราพลิกแผ่นดินในหัวใจ เราทำตลอดเลย

เทศนาว่าการจนเขาศรัทธานะ พอศรัทธา จะใส่บาตร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอก เรารับไม่ได้หรอก เพราะว่าเราไม่ใช่วณิพกไง ไม่ขอด้วยเสียงไง

แล้วถ้าอยากศรัทธา อยากทำบุญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำอย่างไร

ให้เอาอาหารนี้ไปเทลงลำคลอง ไปเทลงน้ำไป เพราะมันไม่มีใครสมควรกับอาหารนี้ เพราะไม่มีใครสมควร ไม่มีใครมีอำนาจวาสนาบารมีเท่ากับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิเสธแล้ว แล้วใครจะรับได้ ให้ไปเทลงคลอง พอเทลงไป ควันขึ้นทั้งหมดเลย

นี่ไง เวลาคนมิจฉาทิฏฐิ เวลาบอกว่า ภิกษุก็หว่านก็ไถสิ ภิกษุก็ทำสิ ชาวบ้านเขาต้องหว่านต้องไถมา เขาถึงได้มีอาหารของเขาใช่ไหม

ภิกษุเที่ยวมาหว่านไถ หว่านไถด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา หว่านไถขึ้นมาเพื่อคุณธรรมในหัวใจ หว่านไถขึ้นมาเพื่อความพ้นจากทุกข์ แล้วที่เรามาทำบุญกุศลกันอยู่นี่ วันนี้วันสำคัญ เราก็มาทำบุญกุศลของเราเพื่อบุญกุศล เพื่ออุทิศส่วนกุศลนะ สิ่งนี้เราระลึกถึงบุญถึงคุณ ให้ถึงว่าเราเป็นมนุษย์ที่มีวัฒนธรรม มีรากมีเหง้า เราทำของเรา ทำของเราเพื่อบุญกุศลของเราไง

ถ้าบุญกุศลของเรา สร้างอำนาจวาสนาบารมีของเรา ถ้าเป็นอำนาจวาสนาบารมีของเรา เราทำของเราเพื่อประโยชน์กับเรา ถ้าใจมันมีคุณธรรมขึ้นมา เวลามันเข้าถึงภายใน ถ้าเข้าถึงภายใน เรารักษาศีลของเรา เราทำสมาธิของเรา ถ้าทำสมาธิของเรา เราจะหลุดพ้นของเราเองไง

เริ่มต้นเราก็ทำบุญกุศลเพื่อเป็นอำนาจวาสนาบารมี แต่เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมา เราหว่านเราไถ เราหว่านไถด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา ถ้าหว่านไถเป็นความจริงขึ้นมา ความมหัศจรรย์เกิดที่นี่ไง

มนุษย์เหมือนกัน แต่ความเห็นในใจไม่เหมือนกัน แล้วความรู้ความเห็นแตกต่างกัน พอมันแตกต่างกัน ดูสิ จิตใจที่สูงกว่าดึงจิตใจที่ต่ำกว่าขึ้นมา โสดาบันแก้ไขปุถุชนได้ สกิทาคามีแก้ไขโสดาบันได้ อนาคามีแก้ไขสกิทาคามีได้ พระอรหันต์แก้ไขพระอนาคามีได้ แก้ไขได้หมดเลย ถ้าแก้ไขได้ นี่จิตที่สูงกว่า แล้วสูงกว่าต่ำกว่ามันอยู่อย่างไรล่ะ สูงกว่าต่ำกว่ามันอยู่อย่างไร

ยิ่งสูงสุดสู่สามัญ ยิ่งสูงขนาดไหนยิ่งไม่มีสิ่งใดคาในหัวใจเลย

เป็นพระโสดาบันก็ อืม! เป็นพระโสดาบันแล้วนะ เป็นสกิทาคามี โอ้โฮ! ฉันเป็นพระสกิทาคามีแล้วนะ ยิ่งเป็นอนาคามีบอกว่าฉันสิ้นกิเลสแล้ว โอ้โฮ! ว่างหมดเลย...ติดอยู่นั่นแหละ มันก็มีทิฏฐิของมันทั้งนั้นแหละ พระอนาคามีก็มีกิเลสของพระอนาคามี ไปดูในพระไตรปิฎกสิ เวลาถึงที่สุด ดูสิ พระอนาคามีก็หลงตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์ หลงไป

แต่ถ้ามันเป็นความจริง จิตที่สูงกว่าดึงจิตที่ต่ำกว่าขึ้นมาได้ แล้วจิตที่สูงกว่า ดูสิ ลูกเราที่เราจะมาวัดมาวา เราต้องดูแลมา เราต้องฝึกฝนเขามา เราต้องดูแลเขามา เราชักนำเขามา แล้วจิตใจที่สูงกว่า ถึงเวลาเขาว่า “พ่อ ไม่ไปวัดหรือ” ถึงเวลามันทวงเลย ฝึกฝนขึ้นมาถึงเวลาเรียกเลย “แม่ ไม่ไปวัดหรือ หนูอยากไปวัด”

“ไปทำไม”

“ไปเอาช็อกโกแลต”

แต่ของเรา เราจะไปฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพื่อจิตใจของเรา

จิตใจของคน เราดูน้ำใจเขา คนเหมือนกัน แต่ความคิดไม่เหมือนกัน อำนาจวาสนาของคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้น เราเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน มีศักยภาพเหมือนกัน แต่เวลาเกิดมาเป็นมนุษย์ มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ แล้วบอกเกิดที่ไหน? เกิดในประเทศอันสมควร เกิดในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา แล้วเราเกิดในประเทศอันสมควร เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ พ่อแม่ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ เวลาพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก พ่อแม่ที่ดี ลูกๆ ก็ชื่นอกชื่นใจ พ่อแม่สั่งสอนให้ลักให้ขโมย ลูกเกิดมา เขาคัดเขาค้านในใจของเขา แต่เขาทำของเขาไป นี่เวลาเกิดในประเทศมันเป็นอย่างนั้น

แต่พ่อแม่ที่ดีขนาดไหน พ่อแม่ที่สอนให้ลักขโมย พ่อแม่ก็เป็นพระอรหันต์ของลูกอยู่วันยังค่ำ เพราะให้ชีวิตนี้มา ชีวิตนี้มันเลือกเกิดไม่ได้ไง มันเลือกเกิดจากสายบุญสายกรรมไง เลือกเกิดไม่ได้ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอก คนไม่ใช่ดีเพราะความเกิด คนจะดีเพราะการกระทำ

คนเรานะ เกิดที่ไหนก็แล้วแต่ เราทำคุณงามความดีของเรา ถ้ามีสติมีปัญญา คนเลือกเกิดไม่ได้นะ แต่เลือกปฏิบัติได้ เลือกขวนขวายได้ เลือกสร้างคุณงามความดีได้ ถ้าทำคุณงามความดีของเรา ดีจากภายนอก ดีจากภายในนะ

วันนี้วันสำคัญ วันสำคัญของชาติ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะมีชาติมันถึงมีศาสนา เพราะมีศาสนา ศาสนาอยู่ในชนชาติใด ผู้นำที่ดีคือพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ที่ดี ๖๐-๗๐ ปี ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข ดูรอบข้างเมืองไทยสิ ทุกข์ร้อนไปทั้งนั้น อันนี้วาสนาของเราโดยที่ไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย มันเกิดขึ้นมาไง เรามาเกิดในชาตินี้ เรามาเกิดในสังคมนี้ เรามาเกิดในประเทศชาตินี้ เพราะบุญกุศลของเรา ฉะนั้น เราระลึกถึง ระลึกถึงคุณงามความดีของเรา ระลึกถึงที่ทำให้เราได้เกิด

มองไปรอบๆ ข้างสิ ขณะที่บ้านเมืองเขาแตกแยก ทุกข์ขนาดไหน ประเทศทั้งประเทศนะ ต้องอพยพ ต้องหนีภัย แต่ประเทศของเรามันจะกระทบกระเทือนขนาดไหนมันก็ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ถึงขนาดนั้น ถ้าไม่ถึงขนาดนั้น เพราะผู้นำเป็นหลักไง ถ้าไม่มีผู้นำเป็นหลักนะ มันฟัดกันไปแล้ว แต่ถ้าผู้นำเป็นหลักนะ อย่างใดๆ ก็อ้างผู้นำ ผู้นำเห็นด้วยๆ แต่มันอ้างไปตลอด ฉะนั้น เราเกิดมาในประเทศอันสมควร ฉะนั้น เราถึงทำบุญกุศลเพื่ออำนาจวาสนาของเราต่อเนื่องไป เอวัง